วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2568

โปรแรง 12.12 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ราคาพิเศษที่สุดแห่งปี! เตรียมตัวให้พร้อมก่อนโปรเริ่ม 9–19 ธันวาคมนี้


เทศกาลช้อปปิ้งครั้งใหญ่ 12.12 กำลังจะกลับมาอีกครั้ง และปีนี้พิเศษยิ่งกว่าเดิม!

เพราะเราจัดโปรเด็ดสำหรับ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า – ยานยนต์สะอาด

ที่ทั้งประหยัดพลังงาน คุ้มค่า และสามารถ จดทะเบียนได้ถูกต้องตามกฎหมาย


โปรครั้งนี้ถือเป็นโปรที่ แรงที่สุดแห่งปี และมีจำกัดเพียง รุ่นละ 9 คันทั่วประเทศเท่านั้น!

เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหามอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่เพื่อใช้งานจริง ทั้งในชีวิตประจำวันและเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว


⚡ โปร 12.12 เปิดขายเฉพาะบน Lazada และ Shopee เท่านั้น

เพื่อให้ลูกค้าช้อปสะดวกขึ้น เราจัดจำหน่ายเฉพาะในแพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยม

🛒 Lazada – ใช้คูปองลดเพิ่ม, ส่งฟรี, เก็บโค้ดล่วงหน้า

🛒 Shopee – โค้ดลดแรง, เก็บโค้ดล่วงหน้า และโปรส่งฟรี

📌 ลูกค้าสามารถกดติดตามร้าน + ใส่รถเข็นไว้ล่วงหน้า เพื่อไม่ให้พลาดตอนโปรเปิดจริง


🌱 ทำไมต้องเลือก “มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า”?

ประหยัดค่าเดินทางมากกว่ามอเตอร์ไซค์น้ำมันหลายเท่า

ไม่ต้องเติมน้ำมัน

เสียงเบา ไม่รบกวนผู้อื่น

ซ่อมบำรุงง่าย อะไหล่น้อย

เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีควันพิษ

ศูนย์บริการพร้อมรองรับทั่วประเทศ

นอกจากนี้แบรนด์ที่ร่วมรายการ เช่น

Super Soco, Easy Watt, EV-Vehicle, Kavallo

เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมและมีมาตรฐานรองรับในไทย


🎁 ไฮไลต์สำคัญของโปร 12.12 ปีนี้

🔥 1. ราคาพิเศษที่สุดแห่งปี

ส่วนลดสูงสุด เฉพาะช่วง 9–19 ธันวาคมนี้เท่านั้น

🔥 2. รุ่นละ 9 คัน ทั่วประเทศ (จำนวนจำกัด!)

ซื้อก่อน มีสิทธิ์ก่อน หมดแล้วหมดเลย

🔥 3. จดทะเบียนได้ ถูกต้องตามกฎหมาย

พร้อมใช้งาน อุ่นใจทุกเส้นทาง

🔥 4. เปิดขายเฉพาะบน Lazada & Shopee

ไม่ต้องเดินทางไปโชว์รูม คลิกสั่งได้เลยจากมือถือ

🔥 5. โปรเสริมจากแพลตฟอร์ม

คูปองส่วนลด

โค้ดส่งฟรี

ระบบผ่อน 0% (ตามเงื่อนไขของแต่ละแอป รอแจ้งอีกครั้ง)


📅 โปรเริ่มวันที่ 9–19 ธันวาคมนี้เท่านั้น!


อย่าลืมกดติดตามร้าน และเตรียมตัวเก็บโค้ดล่วงหน้า เพราะของมีจำนวนจำกัด

👉 ทางที่ดี ควรเพิ่มรุ่นที่สนใจไว้ในรถเข็นก่อนวันโปรจะเริ่ม!


🛒 ลิงก์สั่งซื้อ

🔵 Lazada :https://www.lazada.co.th/shop/cleanvehicle

🟠 Shopee: https://shopee.co.th/supersocothailand


โปร 12.12 ครั้งนี้เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคุณภาพดี ในราคาที่จับต้องได้ คุ้มค่าทุกการใช้งาน

ไม่ว่าจะใช้เดินทางไปทำงาน ไปเรียน หรือใช้ในชีวิตประจำวัน—คุณจะได้สัมผัสความประหยัดและความเงียบที่รถไฟฟ้าให้ได้ดีกว่าที่คิด!


ห้ามพลาดเด็ดขาด! เพราะโปรนี้มีเพียงปีละครั้งเท่านั้น 🚀

วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ความสุข อิ่มใจ อิ่มบุญ จากผู้ให้...สู่ผู้รับ



บริษัท เจียงอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับ มูลนิธิพงษ์ศักดิ์ ถนอมศรี มอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า สนับสนุนภารกิจเพื่อสังคมของโรงพยาบาลหนองคาย

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568

บริษัท เจียงอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ มูลนิธิพงษ์ศักดิ์ ถนอมศรี รู้สึกอิ่มใจและอิ่มบุญที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนงานบริการสาธารณสุขของจังหวัดหนองคาย

โดยมอบ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อ Kavallo รุ่น Easy Watt จำนวน 1 คัน และรุ่น Vespal จำนวน 1 คัน

ให้แก่ โรงพยาบาลหนองคาย เพื่อใช้ในภารกิจดูแลประชาชนและส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในองค์กรในการส่งมอบครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก แพทย์หญิงฤดีมน สกุลคู ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองคาย พร้อมคณะกรรมการบริหารและเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมรับมอบภายในบรรยากาศอบอุ่น เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความซาบซึ้งใจ

บริษัท เจียงอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ มูลนิธิพงษ์ศักดิ์ ถนอมศรี มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน

และเชื่อว่าการ “ให้” ครั้งนี้จะเป็นพลังเล็ก ๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ให้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

“เรารู้สึกอิ่มใจ อิ่มบุญ ที่ได้มอบสิ่งดี ๆ เพื่อสังคม โดยเฉพาะเพื่อบุคลากรทางการแพทย์ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการดูแลประชาชน เราหวังว่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มอบให้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการเติมพลังให้การทำงานของทุกท่านก้าวต่อไปด้วยความสุขและปลอดภัย”

— บริษัท เจียงอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ มูลนิธิพงษ์ศักดิ์ ถนอมศรี

ทาง โรงพยาบาลหนองคาย ได้กล่าวขอบคุณในน้ำใจของบริษัทฯ และมูลนิธิฯ ที่ให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการสนับสนุนงานด้านสาธารณสุข พร้อมอวยพรให้บริษัทฯ และมูลนิธิฯ เจริญรุ่งเรือง มั่นคง และสร้างแรงบันดาลใจในการ “ส่งต่อความดี” ต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด

วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2568

⚡️ จากปั๊มสู่ปลั๊ก เส้นทางใหม่ของคนรักสองล้อ ( Kavallo)




ลองหลับตานึกภาพเช้าวันหนึ่ง...
คุณสวมหมวกกันน็อก หยิบกุญแจรถ แล้วกดปุ่มสตาร์ต — ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ ไม่มีควันดำ มีเพียงเสียงลมเบา ๆ และความรู้สึก “โล่งใจ” ที่แผ่วผ่านหัวใจในทุกครั้งที่หมุนคันเร่ง



ยินดีต้อนรับสู่ยุคที่ “ไฟฟ้า” พาคุณไปได้ทุกที่ 🚀

🌱 จากปั๊มสู่ปลั๊ก: เส้นทางใหม่ของคนรักสองล้อ
เมื่อก่อนเราเคยคิดว่า การไม่มีน้ำมันคือ “จบเกม”

แต่วันนี้... การไม่มีน้ำมันกลับกลายเป็น “จุดเริ่มต้น” ของการเดินทางแบบใหม่
เพราะมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไม่ต้องง้อปั๊มอีกต่อไป
แค่เสียบปลั๊กที่บ้านหรือที่ทำงาน — ใช้เวลาชาร์จไม่กี่ชั่วโมง ก็พร้อมลุยได้ทั้งวัน
บางรุ่นวิ่งได้ไกลถึง 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จเดียว ซึ่งถ้าคิดดี ๆ ก็แทบจะไป-กลับจากบ้านถึงที่ทำงานได้สบาย ๆ



🔋ค่าไฟไม่ถึงถ้วยกาแฟ
เชื่อไหมว่าการชาร์จมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าหนึ่งครั้ง ใช้ค่าไฟแค่ ไม่ถึง 10 บาท
ถ้าเทียบกับค่าน้ำมันที่ต้องจ่ายเป็นร้อยต่อถัง
มันก็เหมือนคุณกำลังจ่ายค่าเดินทางด้วย “เงินค่ากาแฟแก้วเดียว” แต่ได้วิ่งทั่วเมือง
หลายคนบอกว่า “ประหยัดจนงง” เพราะขี่ไปขี่มา สิ้นเดือนแทบไม่รู้สึกว่ามีค่าใช้จ่ายเรื่องรถเลย



💨 ขี่เงียบ แต่แรง!
อย่าคิดว่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าช้า เพราะมันไม่มีเสียงเครื่องยนต์
จริง ๆ แล้วแรงบิด (Torque) ของมอเตอร์ไฟฟ้านั้น “มาไวกว่า” รถน้ำมันเสียอีก
แตะคันเร่งเบา ๆ รถก็พุ่งทันทีโดยไม่ต้องรอรอบ
ขี่ในเมืองก็ลื่นไหลไม่มีสะดุด บางคนถึงขั้นบอกว่า “เหมือนเล่นเกมแต่ในชีวิตจริง”




🌎 เปลี่ยนวิธีเดินทาง เปลี่ยนโลกใบเดิม
ทุกครั้งที่คุณชาร์จไฟแทนเติมน้ำมัน คือการลดควัน ลดเสียง ลดภาระของโลก
มันอาจเป็นแค่การตัดสินใจเล็ก ๆ สำหรับคุณ
แต่สำหรับโลกใบนี้ มันคือ “การหายใจอีกครั้ง”
เพราะพลังไฟฟ้าไม่ได้แค่ทำให้คุณไปถึงที่หมาย
แต่มันยังทำให้โลกหมุนช้าลง — ในทางที่ดีขึ้น




💬 แล้วคุณล่ะ…อยากให้ไฟฟ้าพาคุณไปไหน?
บางคนใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพื่อไปทำงานทุกวัน
บางคนใช้ขี่เล่นชิล ๆ แถวหมู่บ้าน ไปตลาด
บางคนแค่ชอบความเงียบและความเท่ที่แตกต่าง
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เส้นทางของคุณเริ่มต้นได้ง่าย ๆ แค่ “เสียบปลั๊ก”

ถ้าคุณมีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอยู่ตอนนี้…
“คุณอยากขี่มันไปที่ไหนเป็นที่แรก?”

ลองคอมเมนต์บอกกันหน่อยสิครับ 👇
คุณอาจค้นพบว่าปลายทางใหม่ของคุณ ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลเลย —
มันอยู่ในทุกการเริ่มต้นที่กล้าจะ “เปลี่ยน” ⚡️

⚡️ จากปั๊มสู่ปลั๊ก เส้นทางใหม่ของคนรักสองล้อ ( superSOCO)


ลองหลับตานึกภาพเช้าวันหนึ่ง...
คุณสวมหมวกกันน็อก หยิบกุญแจรถ แล้วกดปุ่มสตาร์ต — ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ ไม่มีควันดำ มีเพียงเสียงลมเบา ๆ และความรู้สึก “โล่งใจ” ที่แผ่วผ่านหัวใจในทุกครั้งที่หมุนคันเร่ง




ยินดีต้อนรับสู่ยุคที่ “ไฟฟ้า” พาคุณไปได้ทุกที่ 🚀

🌱 จากปั๊มสู่ปลั๊ก: เส้นทางใหม่ของคนรักสองล้อ
เมื่อก่อนเราเคยคิดว่า การไม่มีน้ำมันคือ “จบเกม”

แต่วันนี้... การไม่มีน้ำมันกลับกลายเป็น “จุดเริ่มต้น” ของการเดินทางแบบใหม่
เพราะมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไม่ต้องง้อปั๊มอีกต่อไป
แค่เสียบปลั๊กที่บ้านหรือที่ทำงาน — ใช้เวลาชาร์จไม่กี่ชั่วโมง ก็พร้อมลุยได้ทั้งวัน
บางรุ่นวิ่งได้ไกลถึง 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จเดียว ซึ่งถ้าคิดดี ๆ ก็แทบจะไป-กลับจากบ้านถึงที่ทำงานได้สบาย ๆ




🔋ค่าไฟไม่ถึงถ้วยกาแฟ
เชื่อไหมว่าการชาร์จมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าหนึ่งครั้ง ใช้ค่าไฟแค่ ไม่ถึง 10 บาท
ถ้าเทียบกับค่าน้ำมันที่ต้องจ่ายเป็นร้อยต่อถัง
มันก็เหมือนคุณกำลังจ่ายค่าเดินทางด้วย “เงินค่ากาแฟแก้วเดียว” แต่ได้วิ่งทั่วเมือง
หลายคนบอกว่า “ประหยัดจนงง” เพราะขี่ไปขี่มา สิ้นเดือนแทบไม่รู้สึกว่ามีค่าใช้จ่ายเรื่องรถเลย


💨 ขี่เงียบ แต่แรง!
อย่าคิดว่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าช้า เพราะมันไม่มีเสียงเครื่องยนต์
จริง ๆ แล้วแรงบิด (Torque) ของมอเตอร์ไฟฟ้านั้น “มาไวกว่า” รถน้ำมันเสียอีก
แตะคันเร่งเบา ๆ รถก็พุ่งทันทีโดยไม่ต้องรอรอบ
ขี่ในเมืองก็ลื่นไหลไม่มีสะดุด บางคนถึงขั้นบอกว่า “เหมือนเล่นเกมแต่ในชีวิตจริง”



🌎 เปลี่ยนวิธีเดินทาง เปลี่ยนโลกใบเดิม
ทุกครั้งที่คุณชาร์จไฟแทนเติมน้ำมัน คือการลดควัน ลดเสียง ลดภาระของโลก
มันอาจเป็นแค่การตัดสินใจเล็ก ๆ สำหรับคุณ
แต่สำหรับโลกใบนี้ มันคือ “การหายใจอีกครั้ง”
เพราะพลังไฟฟ้าไม่ได้แค่ทำให้คุณไปถึงที่หมาย
แต่มันยังทำให้โลกหมุนช้าลง — ในทางที่ดีขึ้น



💬 แล้วคุณล่ะ…อยากให้ไฟฟ้าพาคุณไปไหน?
บางคนใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพื่อไปทำงานทุกวัน
บางคนใช้ขี่เล่นชิล ๆ แถวหมู่บ้าน ไปตลาด
บางคนแค่ชอบความเงียบและความเท่ที่แตกต่าง
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เส้นทางของคุณเริ่มต้นได้ง่าย ๆ แค่ “เสียบปลั๊ก”


ถ้าคุณมีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอยู่ตอนนี้…
“คุณอยากขี่มันไปที่ไหนเป็นที่แรก?”

ลองคอมเมนต์บอกกันหน่อยสิครับ 👇
คุณอาจค้นพบว่าปลายทางใหม่ของคุณ ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลเลย —
มันอยู่ในทุกการเริ่มต้นที่กล้าจะ “เปลี่ยน” ⚡️

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2568

มอเตอร์ไซค์น้ำมัน vs มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

 เปรียบเทียบมอเตอร์ไซค์น้ำมัน vs มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า


ในยุคที่พลังงานและสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นสำคัญ ผู้ขับขี่หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า ระหว่าง มอเตอร์ไซค์น้ำมัน และ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แบบไหนคือคำตอบที่ใช่สำหรับตนเอง บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกข้อแตกต่างทั้ง 8 ด้าน พร้อมมุมมองเพิ่มเติมที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้น


1. เสียงและความรู้สึกในการขับขี่

น้ำมัน: เสียงเครื่องยนต์ดังเป็นเอกลักษณ์ หลายคนมองว่าเป็นเสน่ห์ของการขี่ โดยเฉพาะสายสปอร์ตที่ชอบเสียงเร้าใจ

ไฟฟ้า: เงียบเกือบสนิท ให้ความรู้สึกนุ่มนวล เหมาะกับการขับขี่ในเมือง ลดมลพิษทางเสียง


2. ควันไอเสียและอากาศ

น้ำมัน: การเผาไหม้ก่อให้เกิดไอเสีย ทั้งก๊าซคาร์บอนและฝุ่นละออง ซึ่งเป็นสาเหตุของมลพิษในเมือง

ไฟฟ้า: ไม่ปล่อยไอเสีย ช่วยให้คุณขับขี่โดยไม่เพิ่มมลพิษ เป็นมิตรต่อทั้งผู้ใช้และคนรอบข้าง


3. ค่าบำรุงรักษา

น้ำมัน: ต้องดูแลสม่ำเสมอ เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง, กรองอากาศ, หัวเทียน รวมถึงชิ้นส่วนที่สึกหรอ

ไฟฟ้า: โครงสร้างเรียบง่ายกว่า ใช้อะไหล่น้อย ดูแลง่าย ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาว


4. ค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน

น้ำมัน: ราคาน้ำมันผันผวนสูง ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรมากกว่า

ไฟฟ้า: ค่าไฟฟ้าถูกกว่าอย่างชัดเจน หากชาร์จที่บ้าน ต้นทุนต่อกิโลเมตรอาจเหลือเพียงเศษเสี้ยวของน้ำมัน


5. การเร่งความเร็ว

น้ำมัน: ต้องอาศัยรอบเครื่องยนต์และเกียร์ ทำให้บางครั้งตอบสนองช้ากว่า

ไฟฟ้า: มีแรงบิดทันทีตั้งแต่เริ่มต้น การออกตัวจึงไวและให้ความรู้สึกทันใจ


6. ความทนทานของระบบ

น้ำมัน: เครื่องยนต์มีหลายชิ้นส่วน ทำให้โอกาสสึกหรอสูงกว่า

ไฟฟ้า: ใช้มอเตอร์เป็นหลัก อะไหล่น้อยกว่า จึงทนทานและลดโอกาสเสียหาย


7. ค่าใช้จ่ายรวมระยะยาว

น้ำมัน: ต้องรับภาระทั้งค่าน้ำมันและค่าซ่อมบำรุง รวมแล้วสูงกว่าในภาพรวม

ไฟฟ้า: ค่าใช้จ่ายรวมถูกกว่า แม้ราคาซื้ออาจสูงในตอนแรก แต่ระยะยาวคุ้มค่า


8. สิ่งแวดล้อม

น้ำมัน: สร้างทั้งมลพิษทางอากาศและเสียง มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในเมือง

ไฟฟ้า: ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Emission) ตอบโจทย์โลกยุคใหม่ที่เน้นพลังงานสะอาด


ปัจจัยเสริมในการตัดสินใจ

โครงสร้างพื้นฐาน: หากพื้นที่ที่คุณอยู่มีสถานีชาร์จหรือสลับแบตมากขึ้น มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะสะดวกกว่าเดิมมากสไตล์การใช้งาน: ถ้าคุณเดินทางใกล้ ๆ ในเมือง มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคือคำตอบ แต่ถ้าเดินทางไกลบ่อย น้ำมันอาจยังได้เปรียบ ความคุ้มค่าระยะยาว: แม้ไฟฟ้าจะราคาสูงตอนซื้อ แต่ค่าใช้จ่ายรวมมักถูกกว่าน้ำมันหากใช้งานหลายปี


สรุป

มอเตอร์ไซค์น้ำมัน: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความอเนกประสงค์ เติมน้ำมันเร็ว เดินทางไกลสะดวก และยังชอบความรู้สึกของเสียงเครื่องยนต์

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า: เหมาะกับผู้ที่มองหาความประหยัดในระยะยาว เงียบ สะอาด และใส่ใจสิ่งแวดล้อมในอนาคต เมื่อเทคโนโลยีแบตเตอรี่พัฒนา และสถานีชาร์จ/สลับแบตมีมากขึ้น มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอาจกลายเป็นตัวเลือกหลักของผู้ขับขี่อย่างแท้จริง 🚀⚡

วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ทำไม? ผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ชื่นชอบการใช้แบตเตอรี่ที่สามารถถอดชาร์จภายนอกได้

จากการค้นคว้าข้อมูลในปัจจุบัน (ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต) พบว่าผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ชื่นชอบการใช้แบตเตอรี่ที่สามารถถอดชาร์จภายนอกได้ เนื่องจากมีข้อดีหลายประการดังนี้

ความสะดวกในการชาร์จ:

  • ไม่ต้องลากรถไปชาร์จ: ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องนำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทั้งคันไปยังจุดชาร์จ ซึ่งสะดวกมากสำหรับผู้ที่อาศัยในอพาร์ตเมนต์ คอนโด หรือบ้านที่ไม่มีจุดชาร์จส่วนตัวในที่จอดรถ สามารถถอดแบตเตอรี่ขึ้นไปชาร์จภายในบ้านได้เลย

  • ชาร์จได้ทุกที่ที่มีปลั๊กไฟ: แบตเตอรี่แบบถอดได้สามารถนำไปชาร์จที่บ้าน เพื่อนบ้าน ออฟฟิศ หรือจุดชาร์จสาธารณะที่มีปลั๊กไฟ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการชาร์จสูง

  • ชาร์จสำรอง: ผู้ใช้บางคนอาจมีแบตเตอรี่สำรองหลายก้อน เมื่อแบตเตอรี่หลักหมด ก็สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่สำรองที่ชาร์จเต็มแล้วได้ทันที ลดเวลาการรอชาร์จ




ความยืดหยุ่นในการใช้งาน:

  • การเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Battery Swapping): แนวคิดของสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่กำลังเป็นที่นิยม ผู้ใช้สามารถนำแบตเตอรี่ที่หมดไปแลกเปลี่ยนกับแบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็มได้ทันที ทำให้ไม่ต้องเสียเวลารอชาร์จ เหมาะสำหรับบริการขนส่งหรือการใช้งานเชิงพาณิชย์ที่ต้องการความต่อเนื่อง

  • ลดน้ำหนักของรถ: ในบางกรณี ผู้ใช้ที่ต้องการลดน้ำหนักของรถขณะจอดหรือเข็นสามารถถอดแบตเตอรี่ออกได้


การบำรุงรักษาและอายุการใช้งาน:

  • ง่ายต่อการบำรุงรักษา: การถอดแบตเตอรี่ออกมาภายนอกช่วยให้การตรวจสอบ บำรุงรักษา หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพทำได้ง่ายขึ้น

  • ลดความเสียหายจากสภาพแวดล้อม: การนำแบตเตอรี่ไปชาร์จในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม (เช่น ในร่ม อุณหภูมิคงที่) อาจช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ เมื่อเทียบกับการชาร์จแบตเตอรี่ที่ติดกับตัวรถซึ่งอาจสัมผัสกับสภาพอากาศภายนอกโดยตรง




ความปลอดภัย:

  • ลดความเสี่ยงจากการโจรกรรม: การถอดแบตเตอรี่ออกไปเก็บในที่ปลอดภัยช่วยลดความเสี่ยงที่แบตเตอรี่จะถูกโจรกรรม (เนื่องจากแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามีราคาค่อนข้างสูง)

อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดบางประการเช่นกัน เช่น น้ำหนักของแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างมากอาจทำให้การยกและเคลื่อนย้ายไม่สะดวกสำหรับบางคน และการออกแบบรถอาจซับซ้อนขึ้นเล็กน้อยเพื่อรองรับการถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่

โดยรวมแล้ว ความสะดวกสบายในการชาร์จและการใช้งานที่ยืดหยุ่นเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้แบตเตอรี่แบบถอดชาร์จภายนอกได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

ทุกรุ่น ของ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ยานยนต์สะอาด ถอดแบตเตอรี่ชาร์จภายนอกได้

สนใจ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

📱 : line ID : cleanvehicle
📞 : 061-843-4499, 02-007-3408
----------------------------------------------

วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2568

สิ่งที่ "มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า" ทำได้ แต่มอเตอร์ไซค์น้ำมันทำไม่ได้

 


🔌 1. ขับเคลื่อนเงียบสนิท

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า: ทำงานได้อย่างเงียบมาก เรียกว่าแทบไม่มีเสียงเครื่องยนต์เลย

มอเตอร์ไซค์น้ำมัน: มีเสียงจากการระเบิดในกระบอกสูบและระบบไอเสีย

✅ ประโยชน์: ลดมลภาวะทางเสียง, ขี่ในชุมชนตอนเช้า/ดึกโดยไม่รบกวนผู้อื่น 


⚡ 2. แรงบิดเต็มทันที (Instant Torque)

มอเตอร์ไฟฟ้า: ส่งแรงบิดสูงสุดตั้งแต่รอบเดินเบา ทำให้อัตราเร่งจากหยุดนิ่งรวดเร็วมาก

เครื่องยนต์สันดาป: ต้องเพิ่มรอบเครื่องจนถึงช่วงแรงบิดสูงสุด

✅ ประโยชน์: การออกตัวเร็ว, เหมาะสำหรับเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น 



🛠️ 3. บำรุงรักษาน้อยกว่ามาก

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า: ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง, ไส้กรองน้ำมัน, หัวเทียน, หรือสายพานคลัตช์

มอเตอร์ไซค์น้ำมัน: ต้องบำรุงรักษาชิ้นส่วนเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ

✅ ประโยชน์: ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายระยะยาว 


🔄 4. สามารถนำพลังงานกลับคืน (Regenerative Braking)

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า: ใช้ระบบเบรกเก็บพลังงาน (regen braking) เพื่อแปลงพลังงานจลน์เป็นไฟฟ้าชาร์จแบตเตอรี่

มอเตอร์ไซค์น้ำมัน: ไม่สามารถทำแบบนี้ได้

✅ ประโยชน์: เพิ่มระยะทางการใช้งาน, ลดการสึกหรอของผ้าเบรก 


🧠 5. เชื่อมต่อและควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า: ออกแบบมาพร้อมระบบ Smart เชื่อมต่อแอป, GPS, โหมดการขี่หลากหลาย, ระบบตรวจสถานะจากระยะไกล

มอเตอร์ไซค์น้ำมัน: มีระบบเหล่านี้บ้างแต่จำกัดกว่า เพราะควบคุมด้วยกลไกมากกว่า

✅ ประโยชน์: สะดวก, ปลอดภัย, อัปเดตระบบผ่าน OTA (Over-the-Air) 




🔋 6. ไม่ปล่อยมลพิษขณะใช้งาน (Zero Tailpipe Emissions)

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า: ไม่มีท่อไอเสีย ไม่มีการปล่อย CO₂ ขณะขี่

มอเตอร์ไซค์น้ำมัน: ปล่อยมลพิษตลอดเวลาที่เครื่องยนต์ทำงาน

✅ ประโยชน์: เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, ผ่านมาตรฐาน ZEV (Zero Emission Vehicle) 


💰 7. ต้นทุนพลังงานต่ำกว่า

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า: ค่าไฟฟ้าในการชาร์จต่อ 100 กม. ถูกกว่าน้ำมันมาก

มอเตอร์ไซค์น้ำมัน: พึ่งพาค่าน้ำมันที่ผันผวนและมักสูงกว่า

✅ ประโยชน์: ประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้งานระยะยาว 


📱 8. รองรับเทคโนโลยี AI / IoT / Connected Mobility

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า: รองรับการทำงานร่วมกับระบบที่ใช้ AI เช่น ระบบนำทางอัจฉริยะ, ระบบแจ้งเตือนการบำรุงรักษาล่วงหน้า

มอเตอร์ไซค์น้ำมัน: ขาดความสามารถในการประมวลผลข้อมูลเชิงลึก

✅ ประโยชน์: อนาคตของการขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility)